เฮียหมู บางรักซอย 9″ ต้องตื่นตี 3 ตี 4 ทำข้าวแกง ข า ย ประคองชีวิต

วันนี้เราจะมาติดตามเรื่องราวของ สมเจต พยัฆโส นักแสดงที่มีชื่อเสียงจากบทบาท เฮียหมู เจ้าของร้านข้าว และของชำ

ในซิทคอมเรื่อง “บางรักซอย 9” ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว เผยชีวิตในวัย 60 ปี ยัง เ ห นื่ อ ย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตัวในอดีตส่งผลถึงปัจจุบัน

เฮียหมู เล่าว่า ย้อนกลับไปมองเส้นทางบันเทิง จากเด็กบ้านๆ ก้าวมาเป็นนักแสดงลิเก และมาเป็นนักแสดงตลก คณะกล้วย เชิญยิ้ม

ได้รับคัดเลือกเป็นนักแสดงในละครซิทคอมเรื่องเฮง เฮง เฮง และบางรักซอย 9 ปัจจุบันนี้ ฐานะทางการเงินควรอยู่ในระดับที่ดี ไม่ต้องตรากตรำทำงานหนักแล้ว

แต่ความจริงกับความคิดกับสวนทางกัน ซึ่งเขาไม่โทษฟ้าโทษฝน เพราะสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ผลพวงมาจาก “ความสะเพร่า ไม่รู้จักเก็บ ไม่รู้จักจ่าย” ของตนเอง

“บางรักซอย 9 สร้างชื่อให้ 13 ปี น่ารวยไหม 13 ปี น่ารวยนะ แต่ไม่รวย หมดไม่เหลือ” เฮียหมูบอก

“สมัยก่อนใส่ทองไม่ใช่น้อยๆ นะ ทองนี่เต็มคอ เลสนี่เต็ม โอ้โหตลก วันหนึ่งเล่นข้างนอก 4 ที่ มาเล่นข้างในอีก 7 ที่

คิดดูสิเงินเท่าไหร่ กำเป็นปึก ซิทคอมเดือนนึงก็ 4 ตอน 4 ตอนมันก็ได้แน่ๆ แล้ว หามาได้ เล่นไป อะไรไป”

“วันนี้โอ้โหกว่าจะได้เงินร้อยนึง สะเพร่าไม่รู้จักเก็บไม่รู้จักจ่าย โทษตัวเองไม่โทษใครหรอก เพราะเราไม่กักตุนไว้ พออายุมันเยอะ มันไม่ทันแล้ว”

เฮียหมู บอกต่อว่า ปัจจุบัน เขากับภรรยา ข า ย ข้าวแกงอยู่ที่ ถนนสามวาตะวันตก แม้อาชีพ ข า ย ข้าวแกงรายได้ไม่เป็นก้อนเป็นกำ เหมือนงานแสดง แต่ก็เป็นอาชีพสุจริต ช่วยให้ประคองชีวิตไปต่อได้

“ตอนนี้ ข า ย กับข้าวกับเมีย ข า ย ตั้งแต่เช้า 9 โมง 10 โมง ก็กลับเข้าบ้าน ได้ 400-500 เป็นตังค์ให้ลูกไปโรงเรียน ประคองตัวเองให้รอด เรื่องหนี้สินก็อีกเรื่องหนึ่ง หักเป็นอย่างๆ ไป”

“สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ มาเจอโควิดอีก หลายๆ คนก็แย่ อย่าไปปล้นไปจี้ใคร อย่าไปอะไร บางคนพอเศรษฐกิจไม่ดี ทะเลาะกับเมีย เลิกกับเมีย ไม่เอาๆ อย่าไปทำอย่างนั้น อยู่ด้วยกันมายังไงก็ไปด้วยกัน”

“พวกๆ กันเนี่ย หลายคนเลย เอาแล้ว นึกอะไรไม่ออก ข า ย ยา บอกมึงอย่า มันก็ไม่ฟัง เรียบร้อย พวกรวบ เป็นไงอ่ะ พอเกมแล้วมันเรื่องใหญ่นะ หนักกว่าเก่าอีก แทนที่จะอยู่กับลูกกับเมียติดยาว”

เฮียหมู เคย ป่ ว ย โ ร ค ลิ้ น หั ว ใ จ รั่ ว ยอมรับว่า เ ห นื่ อ ย กับการดำเนินชีวิตแบบปากกัดตีนถีบ ในขณะที่อายุอานามมากขึ้นทุกวัน

ในฐานะผู้นำครอบครัว ไม่เคยแสดงความท้อ หรือถอดใจให้ภรรยา และลูกเห็น มองกระจก และบอกกับตนเองทุกวัน “วันนี้ต้องรอด” ยิ้มสู้ความทุกข์ สนุกกับชีวิต ทำจิตให้แข็งแรง

“รุ่นนี้ตี 3 ตื่นน่ะ คิดดูดิ เ ห นื่ อ ย ไหมล่ะ วิ่งเช้าวิ่งค่ำ วิ่งซื้อกับข้าว แล้วมาช่วยเมียทำกับข้าวอีก กว่าจะไป ข า ย กว่าจะเก็บ”

“ตื่นมายิ้มเลย ยิ้มไว้ อาบน้ำเห็นกระจก ยิ้มเลย ยิ้ม ยิ้มไว้ วันนี้กูรอด วันนี้กูรอด วันข้างหน้ายังไง ไม่รู้ แต่วันนี้กูรอด”

“ท้อไม่ได้ ท้อปุ๊บเดี๋ยวเมียท้อเลย เราต้องเป็นผู้นำที่ดี อย่าไปท้อ ต้องไปให้พ้น ไม่พ้นไม่ได้ ลูกเต้ายังต้องเรียนอยู่อะไรอยู่”

“คนอื่นเขา ยิ่งกว่าเราเยอะเขาเดินกันริมถนน เขานอนกันข้างถนน ทำไมเขาอยู่ได้ เรายังมีบ้าน รถยังมี หาทางดิ้น

ไม่ได้ทางนี้ ก็เอาทางนู้น ไม่ได้ทางโน้นก็เอาทางนี้ จะทำอะไรดี ก็ไปกันเรื่อยๆ สักวันหนึ่งเดี๋ยวฟ้ามันก็สว่าง”

แหล่งที่มา sanook

เรียบเรียงโดย item2day.com