เฮียร้านก๋วยเตี๋ยว เตรียมทำบุญให้แตงโม

พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวชาวอุดรธานี เจ้าหนี้ “ทนายเเม่เเตงโม” ไม่เชื่อจะได้เงินคืนหลังเคลียร์ผ่านรายการข่าว เผยทวงถามตามหาเงินจำนวนนี้มา 5 ปีเเล้ว ไม่คิดว่าจะได้คืน เพราะลูกหนี้หายสาบสูญไปนานเเล้ว จนมีกรณีของเเตงโม จึงจะทำบุญไปให้หากได้เงินคืนมาเเม้เพียงบางส่วน

กรณีนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน เเม่ดาราสาวเเตงโม นิดา ที่มีประเด็นร้อนเกี่ยวกับเรื่องในอดีต เเละมีผู้เสียหายหลายคนทยอยออกมาให้ข้อมูลเปิดเผยเรื่องราวที่ถูกนายกฤษณะฉ้อโกงเงิน

เเม้จะมีการออกยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง เเละพร้อมคืนเงินให้คู่กรณีทุกราย เเต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะชดใช้คืนเมื่อไหร่ ตอนไหน

ล่าสุด มีผู้เสียหาย เป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเมืองอุดรธานี ที่คุยเคลียร์หนี้สินกับนายกฤษณะกลางรายการข่าวช่องดังเเล้ว เเต่ยังไม่อุ่นใจเเม้จะตกลงการคืนเงินเเล้ว หากได้เงินจริงจะทำบุญให้เเตงโมทันที

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 65 ที่ จ.อุดรธานี ณ ร้านสามย่านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เลขที่ 224/8 ถนนอำเภอ เขตเทศบาลนครอุดรธานี นายจตุพงษ์ ปัญญาสวัสดิ์ หรือเฮียโต๋ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ผู้เสียหายอีกราย ที่ได้พูดคุยกับนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความของคุณเเม่เเตงโม ผ่านรายการข่าว จนเป็นกระเเสสังคมที่เกิดขึ้น

นายจตุพงษ์ เปิดเผยว่า รู้จักกับนายกฤษณะมานาน เเละมากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านจนสนิทสนมเชื่อใจกัน เเต่เมื่อปี 2560 นายกฤษณะได้ขอยืมเงิน อ้างว่าลูกป่วຍ บ้านพ่อที่สกลนครถูกน้ำท่วมต้องใช้จ่ายเงินเยอะ ตอนเเรกให้ไป 4,000 บาท

ตอนเย็นกลับมาอีกบอกว่าลูกอาการเเย่ลงมาก ก็ให้ไปอีก 52,000 บาท โดยมีการเซ็นเอกสารกู้ยืม รวมทั้งหมด 56,000 บาท หลังจากได้เงินก็หายไปเลย 

เมื่อโทรหาก็บอกว่าย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ พอโทรศัพท์หาภรรยาบอกว่าเลิกกันเเล้ว ทำให้ตนไม่รู้จะทำอย่างไร กระทั่งมาพบว่านายกฤษณะมาเป็นทนายความให้กับเเม่เเตงโม ซึ่งกำลังเป็นข่าวโด่งดัง

ต่อมา ทางรายการข่าวดังได้ติดต่อตนมา เเละให้วิดีโอคอลคุยกับนายกฤษณะ เขาตกลงจะจ่ายเงินคืนให้ เเต่ขอผ่อนชำระเป็นงวด จากนั้นได้บันทึกเบอร์โทรศัพท์ของนายกฤษณะ เเล้วเเอปพลิเคชันไลน์ก็เด้งขึ้นมาว่าเป็นเพื่อนกัน

ซึ่งนายกฤษณะทักมาคุยกับตนในไลน์ บอกว่าจะชดใช้เงินให้ เเบ่งเป็น 3 งวด งวดละ 18,666 งวดเเรกวันที่ 1 เมษายน งวดที่สองวันที่ 1 พฤษภาคม เเละงวดที่สาม 1 มิถุนายน 2565 โดยตนไม่คิดดอกเบี้ย เเต่ขอให้จ่ายเงินคืนมาให้ครบเท่านั้u

นายจตุพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่คุยกันเเล้ว ก็ยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ หรืออุ่นใจได้ เพราะถ้าเงินยังคืนไม่ครบ ก็จะยังไม่เคลียร์กับเขา เเต่ถ้าได้เงินคืนกลับมาบ้างบางส่วน ก็จะนำเงินจำนวนนี้ไปทำบุญให้เเตงโม เพราะคิดว่าถ้าไม่มีคดีนี้ ไม่มีเรื่องราวนี้ คงจะไม่ได้เงินคืน เงินตนก็จะหายไปเฉยๆ

“ทวงถามตามหาเงินจำนวนนี้มา 5 ปีเเล้ว จนคิดว่าจะไม่ได้คืนเเล้ว กลุ่มผู้เสียหายหลายๆ คนที่พอจะรู้จักก็ถอดใจกันหมดเเล้ว ดังนั้น ถ้าไม่มีกรณีคุณเเตงโม ก็จะไม่มีใครมีโอกาสได้เงินคืนสักบาทเลย เพราะเขาหายสาบสูญไปจากอุดรธานีนานเเล้ว

รู้เพียงนายกฤษณะย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯ เคยโทรหาภรรยานายกฤษณะ ได้รับคำตอบว่าเลิกกันไปเเล้ว เเต่คิดว่าอาจจะอยู่ด้วยกัน เเต่ตนก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าตนไปฟ้องก็จะต้องมีค่าทนายความอีก ก็คิดเพียงว่าหากได้เงินคืนบ้างคงจะดี ได้เเต่เฝ้ารอ ทวงถาม

ซึ่งถ้าได้เงินมาตนยืนยันว่าจะไปทำบุญให้คุณเเตงโม จากนี้ไปก็ต้องรอดูกันถ้าไม่ได้ตามที่ตกลง ก็จะเเจ้งร้องเรียนกับสื่ออีกครั้ง

แหล่งที่มา thairath

เรียบเรียงโดย item2day.com