สุดยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ “มะม่วงหาวมะนาวโห่” บำบัดได้สารพัดโรค

มะนาวไม่รู้โห่ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Carissa carandas L.; ชื่อสามัญ: Karanda; Carunda; Christ’s thorn) หรือชื่อพื้นเมืองอื่นเช่น มะนาวโห่, หนามแดง, หนามขี้แฮด (เชียงใหม่) เป็นพืชที่มีลักษณะเป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดย่อม สูง 2-3 เมตร ตามกิ่งก้านมีหนามค่อนข้างยาวและแหลม ลักษณะใบ เป็นใบเดี่ยวรูปไข่รี ปลายและโคนมน ขอบเรียบ ดอกมีขนาดเล็กมีสีขาวเป็นช่อ หอมกลีบดอกเป็นรูปหอก ผลขนาดเท่าหัวแม่มือ เป็นพวงสีแดงสดแก่สีดำรับประทานได้

“มะม่วงหาวมะนาวโห่” จัดเป็นผลไม้สมุนไพรชนิดหนึ่ง ลักษณะของผลจะมีสีแดงเรียวเล็กคล้ายกับมะเขือเทศราชินี สำหรับรสชาติของผลสุกจะออกหวานนุ่มลิ้น แต่ถ้ายังไม่สุกจะมีรสเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน มีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง เมื่อกัดไปแล้วจะมียางเหนียว ๆ ฝาดคอ เป็นผลไม้ในวรรณคดีเรื่องพระรถเมรี (นางสิบสอง) ใครเคยอ่านคงทราบกันดี

สิ่งที่น่าสนใจคือ เป็นสมุนไพรที่ช่วยซ่อมร่างกาย แค่กินสด-ต้องเลือกลูกที่สีดำ กินวันละ 5-7 ลูก แต่ให้ระวังยางสักหน่อย ไม่แนะนำสำหรับสตรีตั้งครรภ์ ส่วนคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ อาจเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ให้เริ่มจากกินวันละ 1 ลูกก่อนเพื่อปรับสภาพร่างกาย สักพักถึงเพิ่มปริมาณ ไม่ควรเกิน 10 ลูกต่อวัน กินติดต่อกันจะรู้สึกว่าเลือดลมหมุนเวียนดี สุขภาพแข็งแรงขึ้น

อีกสูตรที่ใช้บำรุงสุขภาพคือ ทำเป็นน้ำหมักสมุนไพร โดยเก็บชนิดผลสีแดง เด็ดขั้ว ทิ้งให้ยางจนแห้งก่อนจะล้างน้ำให้สะอาด

วิธีการหมัก

-ใช้ผล 3 กิโลกรัม ต่อน้ำตาล 1 กิโลกรัม น้ำผึ้ง 350 ซีซี หมักในโหลแก้วไว้ 1 เดือน จึงเติมน้ำ 5 ลิตร แล้วหมักต่อจนครบ 3 เดือน เป็นอย่างน้อย ดื่มวันละ 1 ช็อต ร่างกายจะปรับสภาพจนสมดุลและแข็งแรงขึ้น

ประโยชน์ของมะนาวโห่ส่วนต่างๆ ที่ดีต่อร่างกาย

สรรพคุณส่วนผล

– เนื่องจากมีวิตามินซีสูง จึงสามารถรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้

– มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยชะลอความแก่ชรา

– ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวาน โรคเกาต์ โรคปอด โรคถุงลม โรคไต โรคโลหิตจาง เป็นต้น

– มีส่วนช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้ อาทิ เบาหวาน โรคเกาต์ โรคปอด โรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่ โรคไต โรค

 

สรรพคุณส่วนใบและยอดอ่อน

– แก้เจ็บคอ ท้องเสีย ไข้ ถอนพิษ

– ช่วยรักษาอาการคันตามผิวหนัง

– โรคริดสีดวงทวาร (ยอดอ่อน)

สรรพคุณส่วนเปลือก

– ขับน้ำเหลืองเสีย แก้ท้องเสีย

– แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ

– รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง

สรรพคุณส่วนราก

– ช่วยให้เจริญอาหาร ดับพิษร้อน

– บำรุงธาตุ บำรุงกระเพาะอาหาร

– มีประโยชน์รักษาแผลเบาหวาน

สรรพคุณส่วนลำต้นและเนื้อไม้

– ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระปรีกระเปร่า

– แก้อาการอ่อนเพลียและเมื่อยล้า

– ใช้รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง

สรรพคุณส่วนน้ำยาง

– แก้กลากเกลื้อน ใช้สมานแผล

– รักษาแผลเนื้องอก รักษาหูด รักษาตาปลา

หมายเหตุ

หญิงมีครรภ์ห้ามรับประทานเด็ดขาด ส่วนคนที่เป็นโรคหัวใจโตไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะเมื่อรับประทานผลเข้าไปแล้วประมาณ 10 นาที จะทำให้รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ควรรับประทานวันละ 1 ผลเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพจนชินก่อน เมื่อไม่มีอาการแล้วค่อยเพิ่มปริมาณเป็น 10 ผล รับประทานประมาณ 3 เดือนจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี

ขอบคุณข้อมูลจาก : sanook , postsod