เปิดเรื่องราวของเกษตรกรดีเด่น ยึดปฏิบัติตามพระราชดำรัส ในหลวง ร.9 สืบสานพระราชปณิธานเกษตรผสมผสานแบบเศรษฐกิจพอเพีຍงมา 36 ปี จนประสบผลสำเร็จ สร้างรายได้เดือนละ 5 หมื่น แนะเคล็ดลับให้ได้ราคาสูง บังคับพืชออกผลตรงเทศกาล
นี่เป็นปรัชญาสำคัญที่ ‘ลุงน้อย’ หรือ ‘สุริยะ ชูวงศ์’ วัย 62 ปี เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติปี 49 และ 59 เจ้าของพื้นที่สวนผลไม้ 13 ไร่ ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี สืบสานพระราชปณิธานด้านเกษตรและยึดมั่นปฏิบัติมาตลอด 36 ปี นับตั้งแต่ พ.ศ. 2526 หลังจากได้เข้าเฝ้าฯ ในหลวง ร.9 ณ สวนจิตรลดา ขณะอายุ 26 ปี
ลุงน้อย ย้อนเล่าความรู้สึกช่วงเวลามงคลสูงสุดในชีวิต 2 ชั่วโมงที่ได้เข้าเฝ้าฯในหลวง ร.9 กับทีมข่าวเฉwาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า ในหลวง ร.9 ทรงอธิบายและสอนการทำเกษตรผสมผสานแบบเศรษฐกิจพอเพีຍง รวมถึงสอนให้เป็นคนรอบรู้ รอบคอบ ช่างสังเกต
ด้วยใจรักการเกษตรมาตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อได้รับพระราชดำรัสก็น้อมนำทฤษฎีไร่นาสวนผสมและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพีຍงมาเป็นแนวทางพัฒนาสวนของตัวเองที่เช่าคนอื่นในพื้นที่ 3 ไร่
รายได้เดือนละ 5 หมื่น มีเงินเก็บหลักล้าน เพราะคำสอน “ในหลวง ร.9”
เร่ิมโดยแบ่งพื้นที่ให้เป็นระบบ ขุดบ่อน้ำ ทำการเกษตรแบบผสมผสาน ด้วยการทำนาและการปลูกผลไม้ อาทิ ชมพู่พันธุ์เพชรสายรุ้ง ละมุด มะนาว มะละกอ มะยงชิด กล้วยหอมทอง กล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า ตาลโตนด มะม่วงน้ำดอกไม้ มะพร้าว
โดยผลิตปุ๋ยชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพ และเครื่องดักจับเเมลงใช้ในไร่นา เพื่อลดต้นทุนการผลิต และปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
ลุงน้อยที่มีการศึกษาประถมศึกษาปีที่ 7 ยึดมั่นปฏิบัติตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพีຍงและคำสอนของในหลวง ร.9 มาเสมอ เน้นความพอเพีຍง ทำแต่พอประมาณ พึ่งพาตนเอง ทำให้ชีวิตมีแต่ความเจริญ มีกินมีใช้อย่างพอเพีຍง ไม่มีหนี้สิน มีเงินเก็บ
ภายใน 5 ปีก็สามารถซื้อที่ดินเป็นของตัวเอง พัฒนาสวนจาก 3 ไร่ ปัจจุบันเป็น 13 ไร่ สร้างรายได้เดือนละ 50,000 บาท ปีละ 600,000 บาท ด้วยต้นทุนปีละไม่ถึงหมื่น เก็บออมตามคำสอนของพระองค์ จนมีเงินเก็บหลักล้าน เพราะทำการจดบัญชีครัวเรือน บัญชีฟาร์ม
และบันทึกข้อมูลการทำการเกษตรเพื่อวิเคราะห์วางแผนการผลิตและการตลาด เพื่อให้ผลไม้ได้ราคาสูง ๆ และบังคับพืชออกผลผลิตตรงกับเทศกาล
แนะเคล็ดลับแบบไม่กั๊ก ได้ราคาสูง บังคับพืชออกผลผลิตตรงเทศกาล เมื่อถามถึงเคล็ดลับ ลุงน้อย รีบเอ่ยปากเล่าให้ฟังทันทีโดยไม่หวงวิชา ตามคำสอนของในหลวง ร.9 ที่เคยบอกไว้ว่า
“ได้ดีแล้วต้องบอกคนอื่นเป็นบุญทาน คนอื่นก็ได้ดีตามด้วย อย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ลุงน้อยบอกเคล็ดลับการเร่งผลผลิตต่าง ๆ เช่น ชมพู่พันธุ์เพชรสายรุ้ง ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของเมืองเพชรออกผลก่อนสวนอื่นว่าต้องติดตั้งไฟนีออนให้ความร้อนทั้งคืน โคนต้นต้องแห้ง หากฝนตกต้องรีบระบายน้ำออก
มะพร้าวที่ไม่เคยมีหuอนหัวดำมาทำให้ตๅຍยืนต้น เคล็ดลับ คือ แค่น ปลาสดมาทิ้งไว้ที่โคนเพื่อให้มดแดงแห่มาอยู่ที่ต้นมะพร้าว หuอนหัวดำก็ไม่กล้ามากินยอดมะพร้าว ส่วนมะนาวที่มักขาดตลาดและแพงในช่วงเดือน มี.ค. – เม.ย. ก็ให้ใช้มะนาวแป้นเสียบกิ่งมะนาวยักษ์ เพื่อให้มีผลดก ทนโรค อายุยืน
“เทคนิคต่าง ๆ ที่ได้ทำ นั่นเป็นเพราะคำสอนของพระองค์ท่านที่ทรงบอกว่าให้สังเกตสิ่งแวดล้อม ต้นชมพู่หน้าบ้านอยู่ติดไฟทางก็สังเกตว่าชมพู่ออกดอกทั้งปี พระองค์ท่านทรงบอกว่า ตรงที่น้ำท่วมให้ปลูกมะนาวยักษ์เพราะทนน้ำท่วม แล้วเสียบยอดด้วยมะนาวแป้น
ถ้าไม่ทำแบบนี้ เดือน พ.ย. มะนาวออกดอก โดนฝนแล้วร่วงหมดก็ทำให้ไม่มีมะนาว มะนาวจึงแพง พอทำตามที่พระองค์ทรงสอน ดอกมะนาวก็ไม่ร่วง ออกมา 10 ดอก ติดลูกทั้งหมด พระองค์ทรงสอนในหลาย ๆ เรื่อง แม้กระทั่งหลอดแบล็กไลต์ที่ล่อเเมลงศัตรูพืช กาวเหนียวดักเเมลงวันผลไม้ ตรงไหนน้ำท่วมก็ยกร่องให้น้ำทิ้งออกไปได้”
ผลดีจากคำสอนในหลวง ร.9 ปีนต้นตาล 80 กว่าต้น ไม่มีหนี้ตั้งแต่อายุ 26 กว่า 36 ปี ที่ปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพีຍง ทำให้สวนของลุงน้อยได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช (GAP) จากกรมวิชาการเกษตร
ส่วนลุงน้อยเองนั้น ได้รับรางวัลระดับชาติการันตีเป็นจำนวนมาก เช่น รางวัลเกษตรกรต้นแบบเศรษฐกิจพอเพีຍง ประจำปี 2558 จากสภาเกษตรกรแห่งชาติ, เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาบัญชีฟาร์ม ประจำปี 49
และ 59 จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับยกย่องเป็นปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพีຍง ปี 62 และในปี 63 จะเข้ารับดุษฎีบัณฑิตจาก มรภ.เพชรบุรี
จากประสบการณ์ชีวิตเกษตรที่สั่งสมไว้เพื่อให้องค์ความรู้ที่มีเป็นประโยชน์กับคนรุ่นต่อ ๆ ไป ตามพระราชดำริของในหลวง ร.9 ลุงน้อย นอกจากเป็นเกษตรกรแล้วยังเป็นวิทยากรทั่วประเทศ
ถ่ายทอดผลงานและความรู้ให้กับผู้ที่สนใจการปลูกพืชไร่พืชสวนแบบผสมผสานให้ได้รับความรู้ เทคนิคและวิธีการทำการเกษตร ความรู้เกี่ยวกับพืชต่าง ๆ ในเชิงลึก โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
“ใครมาเยี่ยมชมสวน ลุงบอกเคล็ดลับหมด ไม่เคยโกหก พระองค์ทรงสอนไว้ว่า ทำเท่าที่ทำได้ก็จะเจริญก้าวหน้า รายได้มั่นคงยั่งยืน เวลาไปบรรยายก็บอกคนอื่น ๆ ว่าทำเถอะเศรษฐกิจพอเพีຍง ถ้ามีกำลังพอทำได้ พระองค์ท่านทรงสอนอีกว่า ให้แบ่งปันก่อน เหลือแล้วถึงขาย อย่าเสียดาย เดี๋ยวจะมีสิ่งดี ๆ กลับมา แล้วก็มีจริง ๆ
เวลามีคนมาเยี่ยม มาดูงานที่สวนก็มีเอาเสื้อผ้า อาหารการกินมาแบ่งปัน ในสวนลุงบอกใครอยากได้ อยากกินอะไรก็กิน พอยึดตามคำสอนของพระองค์ ชีวิตลุงไม่มีคำว่าตกต่ำ สุขภาพแข็งแรงดี ไม่เคยเจ็บป่วย ยังขึ้นต้นตาล 80 กว่าต้นด้วยตัวเอง ลุงอยู่อย่างพอเพีຍง ไม่ทำอะไรเกินตัว
ถ้าไม่มีเงินสดจะไม่ซื้อ พระองค์ท่านทรงสอนไว้ว่าให้ออมเงิน ลุงก็ออมมาตลอด ไม่มีหนี้ตั้งแต่อายุ 26 ปี หลังจากเข้าเฝ้าฯ พระองค์” ลุงน้อยบอกทิ้งท้ายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
แหล่งที่มา: thairath
เรียบเรียงโดย item2day.com