หนึ่งพันบาท มอบให้แม่ทุกเดือน… แม้ไม่มีก็ต้องให้ เพราะผลที่ได้มันคุ้มค่า

ถือว่าเป็นเรื่องราวที่ทำเอาซึ้งและเหลือเชื่อเอามาก ๆ สำหรับเรื่องราวที่อยากให้ทุกคนได้อ่าน ที่จะได้ข้อคิดไม่มากก็น้อย สำหรับผู้ที่เลี้ยงดูพ่อ แม่ แต่ไม่ได้ให้เงินพ่อแม่ไว้ใช้เลย อาจจะคิดว่าเราก็เลี้ยงดูท่านอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ทุกสิ่งอย่างก็เตรียมไว้ให้พร้อม ลองอ่านเรื่องนี้ดูความคิดคุณอาจเปลี่ยนไปเลยก็ได้

หลังเลิกเรียน ผมเห็นอาจารย์กำลังนั่งจดอะไรอยู่บนโต๊ะสีหน้าเคร่งเครียด

ด้วยความที่ผมสนิทสนมกับอาจารย์ และ ชอบช่วยงานท่านอยู่บ่อยๆจึงเอ่ยปากถาม ” อาจารย์กำลังทำอะไรครับ… มีอะไรให้ผมช่วยไหม…? “

อาจารย์ตอบว่า… ” กำลังตัดรายจ่ายอยู่ ผมต้องจ่ายค่าแม่ครัว คนขับรถ คนสวน ค่าใช้จ่ายในบ้านและให้แม่เดือนละ 1,000 บาท “

ตอนนี้รายได้กับรายจ่ายมันไม่ค่อยสัมพันธ์กันนัก ต้องลดรายจ่ายบางส่วนลง

ผมเลยพูดว่า ” เงินเดือนที่ให้แม่ 1,000 บาท เอาออกได้นี่ครับ เดือนไหนมีเหลือเยอะค่อยให้ “

อยู่บ้านหลังเดียวกัน ค่าน้ำ-ค่าไฟ อาจารย์ก็รับผิดชอบหมด อาหารสามมื้อ อาจารย์ก็จัดให้ท่านเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ซื้อให้ใหม่เดือนละชุด ไม่สบายอาจารย์ก็พาไปหาหมอ และ เบิกค่ารักษาได้

อาจารย์ตอบกลับว่า… ” ไม่ได้เลยนะ 1,000 บาท…!! นี่สำคัญที่สุด เพราะเป็นเงินสำหรับ หล่อเลี้ยงหัวใจแม่ “

ผมฟังแล้วอึ้งอยู่พักนึง เงินหล่อเลี้ยงหัวใจแม่เพราะไม่เคยได้ยินคำนี้

อาจารย์พูดต่อว่า… ” ร่างกายต้องการอาหารมาหล่อเลี้ยงให้อิ่มหัวใจของคนเราก็เช่นกันต้องมีอะไรมาหล่อเลี้ยง “

ลองนึกดู… คนที่ไม่มีเงินติดตัวเลยนี่เป็นอย่างไร ใจมันจะหวิวๆ ไม่สดชื่นๆนะ มนุษย์เงินเดือนจะรู้ดี ช่วงปลายเดือนแล้วไม่มีเงินเหลือติดบัญชี มันจะรู้สึกประมาณนั้นแหละ มันเฉาไปจนถึงสิ้นเดือนเลยนะ

แม่อยู่กับเราก็จริง แต่ถ้าแม่ไม่มีเงินอยู่ในมือหัวใจท่านก็เฉา ท่านก็เฝ้ารอให้ถึงวันเงินเดือนออกเหมือนกัน รับเงินเดือนมาใหม่ ๆ หน้าตาสดใส

เมื่อทุกสิ้นเดือนพอเงินเดือนออก ก็เข้าไปสวัสดีแม่ บอกแม่ว่า… วันนี้เงินเดือนออกครับ ผมเอาเงินใส่มือแม่ 1,000 บาท แม่ก็ให้พรผมเเล้วเก็บเงินไว้ใต้หมอนไว้อย่างมีความสุข

วันหนึ่งน้องของอาจารย์ พาภรรยาไปคลอดลูกคุณแม่ก็ซื้อทองให้หลาน ด้วยเงินที่เก็บสะสมไว้ ท่านกอดหลาน และ สวมสร้อยให้พร้อมให้พร

พอหลานโตขึ้นพอรู้ภาษา ก็ถามว่าสายสร้อยนี้ใครกันซื้อให้ ก็บอกหลานได้ด้วยความภาคภูมิใจว่า คุณย่าเป็นคนซื้อให้

คนที่อาวุโสที่สุดในบ้าน คือ คุณย่า เพราะ 1,000 บาทที่เก็บสะสมนี้ทำให้ท่านดูน่าเกรงขาม และ เป็นที่รักของหลาน ๆ ถ้าคุณแม่ไม่มีเงินจะรับขวัญหลานได้เช่นไร

เห็นไหมล่ะว่าเงิน 1,000 บาท ที่เราให้ เป็นบันไดพาแม่ไปสู่ความสุข

อีกเหตุการณ์หนึ่ง… วันหนึ่งมีกำนันมาอนุโมทนาบุญที่หมู่บ้าน แม่ของอาจารย์ก็นำเงินที่ลูกให้ไว้มาทำบุญ เมื่อกำนันรับเงินเสร็จก็เดินผ่านไปบ้านถัดไป

เห็นลุงข้างบ้านก็กำลังเก็บผ้าอยู่ในบ้าน กำนันก็ตะโกนข้ามรั้วเข้ามา… ” ทำบุญสร้างศาลาวัดร่วมกันไหมครับลุง “

ลุงข้างบ้านตอบ… ” ลุงไม่มีเงินหรอกลุงอาศัยลูกสาวอยู่ เดี๋ยวเผื่อลูกเขากลับมาทัน จะขอเงินเขาทำบุญนะ เพราะ ลูกเขาไม่ได้ให้เงินเดือนลุงไว้ใช้ไง “

เป็นไงบ้าง เห็นพลังของของ เงินหล่อเลี้ยงหัวใจแม่ ไหมละ…?

 

แหล่งที่มา : bitcoretech.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.