อีกหนึ่งเรื่องราวที่ถูกเล่าผ่าน เฟซบุ๊ก Poramet Misomphop ซึ่งหลายคนน่าจะรู้จักกันดีกับหนุ่มจิตอาสาคนนี้ ล่าสุดได้เล่าเรื่องราวขอ น้องน้ำตาล โดยตนได้มีโอกาสลงพื้นที่เพื่อถ่ายทำรายการ ตนจริงใจไม่ท้อ
ระหว่างที่ตนยืนอยู่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจบุรี อยู่ ๆ มีเด็กสาวมายืนอยู่ข้างหลังแล้วพูดว่า “พี่เมศหรือเปล่าคะ หนูดีใจมากเลย ที่พี่กลับมาอีกครั้ง หนูอยากขอความช่วยเหลือจากพี่หน่อย”
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านดังกล่าวได้เผยว่า หากย้อนกลับไปในอดีต “น้ำตาล” เด็กสาววัยเพียง 10 ขวบ เกือบจะไม่มีชีวิต ลืมตามาดูโลกใบนี้ เนื่องจากผู้เป็นแม่แท้ ๆ พอรู้ว่าตั้งท้องก็ไม่อยากเก็บน้องไว้ แต่มีคุณหนึ่ง (แม่บุญธรรมปัจจุบัน)
ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้า ได้ร้องขอชีวิตเอาไว้ และพอเด็กคนนี้คลอดออกมาเพียงไม่กี่วัน ผู้เป็นแม่แท้ ๆ ก็ได้ยกน้องที่เป็นลูกสาวในไส้ให้กับผู้เป็นป้าไป และตั้งแต่นั้นมาน้องก็ไม่เคยเห็นหน้าแม่แท้ ๆ อีกเลย และน้องก็ไม่เคยรู้ว่าพ่อของน้องคือใครอีกเช่นกัน
ปัจจุบันน้องน้ำตาลอาศัยอยู่ในบ้านเช่ากับคุณป้าหนึ่งที่เป็นแม่บุญธรรม ทั้ง 2 ยังคงค้างค่าเช่าบ้านมากว่า 3 เดือน โดยที่สามีป้าหนึ่ง ผู้เป็นลุงแท้ ๆ ของน้องน้ำตาล ก็ได้เลิกลากับป้าหนึ่งไปแล้ว ป้าหนึ่งมีอาชีพกรรมกรรับจ้างก่อสร้างตามสถานที่ต่าง ๆ
จากที่สอบถามผู้อำนวยการโรงเรียนพบว่า น้องน้ำตาล เป็นเด็กที่เรียนปานกลาง ขยัน, พูดเก่ง, กล้าแสดงออกและนิสัยดี ทุกหลังเลิกเรียนน้องน้ำตาลจะอยู่โรงเรียนจนเย็นเพราะกลับไปต้องอยู่บ้านตามลำพัง เนื่องป้าหนึ่งต้องออกไปทำงานก่อสร้าง
พอถึงบ้านน้องน้ำตาลจะทำงานบ้านทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหุงหาอาหาร ซักผ้า โดยป้าหนึ่งจะกลับบ้านทุกเสาร์-อาทิตย์ และถ้าวันไหนที่น้องน้ำตาลไม่ต้องไปโรงเรียน น้องน้ำตาลก็จะออกไปช่วยคุณป้าทำงาน ไม่ว่าจะเป็นตักปูน แบกทราย แบกหิน หรือช่วยทำงานอื่น ๆ ในไซร์งานก่อสร้างแบบนี้ทุกครั้ง
ระหว่างที่ตนเดินคุยกับน้องน้ำตาลอยู่นั้น อยู่ ๆ ได้ยินเสียงดังขึ้นว่า “ดำตับเป็ดมาแล้ว ๆ” ตนจึงได้ถามน้องว่า เพื่อน ๆ ในโรงเรียนพูดแบบนี้ไม่อายเหรอ
น้องน้ำตาลก็ได้ตอบกลับว่า เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนชอบล้อว่า “ดำตับเป็ด ลูกกรรมกร แต่หนูไม่อายคะพี่ หนูไม่โกรธเค้า หนูตัวดำจริง ๆ อีกอย่าง หนูก็ภูมิใจที่แม่หนูมีอาชีพกรรมกร..”
จากนั้นตนก็ได้ถามน้องน้ำตาลว่า ทำไมหนูไม่ไปเที่ยวไหนกับเพื่อน ๆ บ้าง น้องน้ำตาลก็ได้ตอบกลับตนว่า “หนูไม่อยากไปค่ะ หนูอยากช่วยแม่ หนูไม่อยากเห็นแม่เหนื่อย หนูไม่อายค่ะ ถ้าสิ่งที่หนูทำ แรงที่หนูมี ทำช่วยแบ่งเบาเหงื่อของแม่ได้ หนูทำได้ค่ะ” และนี่คือคำพูดของเด็กวัยเพียง 10 ขวบพูดออกมา
แหล่งที่มา : Poramet Misomphop
เรียบเรียงโดย : item2day.com