“ธรรมนัส” เผยว่า เอาผิด “ปารีณา” ไม่ได้ เพราะถือครองที่ดิน ก่อนออกกฎหมาย

เมื่อไม่นานมานี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการส.ป.ก. นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าฯราชบุรี นายประยงค์ จันทเต็ง นายอำเภอจอมบึง ลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มไก่เขาสน 1

เพื่อส่งมอบคืนพื้นที่ดินส.ป.ก. จำนวน 684 ไร่ บริเวณฟาร์มไก่ เขาสนฟาร์มของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.เขต 3 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่เข้าไปยึดครองที่ดินและยึดคืนพื้นที่ไว้ 684 ไร่

หลังมีคำสั่งให้น.ส.ปารีณาคืนพื้นที่ภายใน 7 วัน โดยน.ส.ปารีณาได้ส่งนายสมใจ สะทองเลียบ นำเอกสารมอบคืนที่ดินติดอากรแสตมป์ มอบให้กับร.อ.ธรรมนัส

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากน.ส.ปารีณาทำหนังสือถึงส.ป.ก. เพื่อจะขอส่งคืนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 600 ไร่ โดยวันนี้ได้มาราชการที่ราชบุรี จึงถือโอกาสมารับส่งมอบวันนี้

โดยพื้นที่ตรงนี้เป็นเขตการประกาศปฏิรูปที่ดิน เมื่อผู้ครอบครองที่ดินไม่มีคุณสมบัติหรือครอบครองเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่งคืนมาโดยที่ไม่ต้องไปฟ้องขับไล่ ทางส.ป.ก.จะดำเนินการตามขั้นตอนที่ผู้ครอบครองร้องขอมา ในเรื่องส.ป.ก.ไม่มีการดำเนินคดี เนื่องจากน.ส.ปารีณาครอบครองมาก่อนที่จะประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน

“เราได้รับส่งมอบมาจากกรมป่าไม้พร้อมกับผู้ครอบครอง เมื่อได้ส่งมอบให้กับทางหลวง ซึ่งถือว่าเป็นที่ดินของรัฐ ส่วนส.ป.ก.ก็จะจบกัน โดยจะรับพื้นที่ทั้งหมดคืนมา เพื่อจัดสรรให้เกษตรกรผู้ไร้ที่ทำกินและที่อยู่อาศัยต่อไป ส่วนของส.ป.ก.มีหน้าที่เอาที่ดินคืนมาก่อน

ขณะที่โรงเรือนนั้น ผมไม่มีนโยบายที่จะไปทำลายทรัพย์สินใด ๆ เหมือนกับที่จ.กระบี่ มีโรงเรือนต่าง ๆ ก็จะมอบให้ชาวบ้านที่มีสิทธิ์ต่อไป ส่วนเสาไฟฟ้าที่อยู่ในฟาร์มไก่คงต้องรื้อถอนออก”ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า น.ส.ปารีณาทำหนังสือมาถึงเมื่อวันศุกร์ แจ้งว่าขอส่งที่ดินคืนให้กับส.ป.ก. อยากให้เข้าใจว่ากฎหมายส.ป.ก.ว่าด้วยอะไร จึงต้องทำตามกฎหมาย ไม่ใช่ว่าเราละเว้นไม่ปฏิบัติ ไม่บังคับใช้กฎหมายกับใครคนใดคนหนึ่ง แต่ใช้เหมือนกันหมด

เช่นเดียวกับที่ดินแปลงอื่นก็เหมือนกัน ส่วนกรณีดื้อไม่ยอมคืนก็จะใช้มาตรา 44 บังคับใช้ ซึ่งที่ดินของน.ส.ปารีณา ขณะนี้มีจำนวนทั้งหมด 684 ไร่

“ขณะนี้ได้สั่งการให้ปฏิรูปที่ดินทุกจังหวัดไปว่าให้มีการตรวจสอบที่ดินที่จัดสรรไปแล้วว่ามีใครถือครองไปบ้าง มีใครได้สิทธิ์บ้าง และที่กำลังจัดสรรได้ดูอย่างละเอียด สำหรับแนวทางการจัดสรรที่ดินทำกินนั้นจะมีคณะกรรมการของจังหวัดราชบุรี

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน อีกไม่นานจะมีประกาศให้เกษตรกรมาลงทะเบียน และแต่ละคนจะได้สิทธิ์กี่ไร่ต้องดูจำนวนประชากรที่มีอยู่ด้วย โดยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป น.ส.ปารีณาจะไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำอะไรในพื้นที่บริเวณนี้ได้อีก แต่อาจจะมีสัตว์เลี้ยง

เช่น วัว สิ่งของ ซึ่งให้เวลาภายใน 7 วัน นับจากวันนี้เป็นต้นไป ทุกอย่างต้องแล้วเสร็จ หลังจาก 7 วันไปแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

จากนั้นนายสมใจ สะทองเลียบ ตัวแทนที่ส่งมอบหนังสือคืนที่ดิน พาเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนเข้าไปภายในฟาร์ม พบว่าไม่มีคนงานอยู่และฟาร์มไก่ได้หยุดกิจการไปก่อนหน้านี้แล้ว มีเพีຍงบ้านพักคนงาน เป็นบ้านไม้ยกพื้นบริเวณทางเข้าที่มีสระน้ำขนาดใหญ่ที่นำน้ำไปใช้ในฟาร์มไก่

อีกทั้งมีถังสำหรับใส่อาหารไก่อยู่บริเวณเล้าไก่เล้าละ 1 ถัง พื้นที่โดยรอบเป็นป่าละเมาะ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจดูพื้นที่ก่อนเดินออก

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการส.ป.ก. ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินตรวจสอบฟาร์มไก่ว่า ที่ดินนี้เข้าสู่คณะกรรมการจัดหาที่ดินที่ทางกระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดินเป็นฝ่ายจัดหาคณะกรรมการจัดคนลง และส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมาในเรื่องของคนที่จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่และเรื่องการรังวัด ส่วนใหญ่ใช้เวลาในเรื่องการจัดวางผังแปลง

เนื่องจากเรื่องของคนลงอาจจะต้องมีการทำประชาคมคนที่จะมาลงนั้นเป็นเกษตรกรหรือไม่ กลไกนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นประธานในการดำเนินการในพื้นที่ ส่วนที่ดินที่แต่ละคนจะได้นั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่ดินจังหวัดที่จะดูเหตุผลและดูจำนวนประชาชนที่จะเข้ามาแสดงเจตจำนงในการที่จะเข้ามาขอที่ดินดังกล่าว

สำหรับบรรยากาศพื้นที่ด้านนอกประตูฟาร์มไก่ที่เป็นพื้นที่กว้างติดกับเชิงเขานั้น มีฟาร์มเลี้ยงวัวอยู่จำนวนหลายร้อยตัว และได้มีรถบรรทุกเข้าไปขนย้ายวัวออก

ส่วนที่เคยมีกระสอบขี้ไก่จำนวนมากมากองขายกระสอบละ 10 บาท ปรากฏว่าวันนี้ได้มีป้ายติดไว้ว่า “ขี้ไก่หมดแล้ว” ติดไว้บริเวณหน้าฟาร์ม อีกทั้งมีรถบรรทุกพ่วงได้ทยอยขนย้ายสิ่งของอุปกรณ์การเลี้ยงไก่ เครื่องปั่นไฟออกมาเป็น เหลือเพีຍงบ้านพัก และเล้าไก่ที่ยังไม่มีการรื้อถอน

จากนั้น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ออกมาเปิดเผยว่า ส.ป.ก.จะไม่มีการดำเนินคดีใด ๆ กับกรณีที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ โดยระบุข้อความว่า

“แข่งเรือ แข่งพาย แข่งได้

แข่งบุญ แข่งวาสนา อย่าหวังแข่ง

หลายครั้งหลายคราที่กฎหมายของไทยฉบับเดียวกัน แต่ใช้กับคนหลายระดับชั้นอย่างไม่เท่าเทียมกัน

เจ้าหน้าที่รัฐ หรือฝ่ายบริหาร คงมอง “ฝ่ายรัฐบาล” กับ “ฝ่ายค้าน” ต่างกัน มันเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร

ชีวิตการเมืองของผมเคยเป็นแต่ฝ่ายค้าน จึงไม่ทราบว่าการเป็นฝ่ายรัฐบาลได้สิทธิพิเศษอย่างไรหรือไม่?

ผมเคยคิดอยู่เสมอว่า ไม่ว่าใหญ่แค่ไหน หากทำผิดกฎหมาย ต้องถูกลงโทษ

ต่อมาเมื่อผมได้ชดใช้หนี้ความผิดตามกฎหมาย

แต่กลับมองเห็น “คนมีอำนาจ” ไม่ต้องชดใช้ จึงได้สำนึกว่าผม “คิดผิด”

กฎหมายสำหรับคนธรรมดา กับกฎหมายของผู้มีเกียรติคงไม่เหมือนกัน เปรียบกับเรื่องรุกป่า หากเป็นคนธรรมดา ป่านนี้คงไม่มีโอกาสแม้แต่จะเถียง ได้แต่ก้มหน้ารับโทษ นึกแล้วอย่าได้ไปน้อยใจในวาสนา

คิดถึงผู้ใหญ่ที่เขาบอกไว้ว่า “แข่งเรือ แข่งพาย แข่งได้ แต่แข่งบุญ แข่งวาสนา มันแข่งกันไม่ได้”

คงมีเส้นแบ่งอะไรสักอย่าง ที่ประชาชนคนธรรมดาอย่างผม ไม่ต้องพูด

เพราะถึงพูดไป มันไม่มีความหมายอะไรในประเทศไทย”

แหล่งที่มา: ชูวิทย์ / baterk

เรียบเรียงโดย item2day.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.