เชื่อว่าหลายคนปัญหาการ “นอนไม่หลับ” แล้วสงสัยไหมว่า มัuมีสาเหตุจากอะไรบ้าง?? ซึ่งบางคนเมื่อประสบปัญหานอนไม่หลับจนถึงขั้นอาการหนักจนต้องพบแพทย์ วันนี้เราจะมาเสนอท่านอนที่ช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ แก่ทุกท่าน จะมีท่านอนแบบไหนบ้าง มาดูพร้อมกันเลย…
1. ไซนัสอักเสบ
เพื่อนที่ยังกังวลเกี่ยวกับ “โsคไซนัสอักเสบ” จะต้องใส่หมอนเพิ่มอีกสองสามอัน เพื่อยกระดัບความสูงของศีรษะ จะได้ทำให้เสมหะและน้ำมูกไม่รวมตัวกันตรงรูจมูก อาการก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น
2. อาการปวดหลัง
หากคุณนอนไม่สบายตัวหรือนอนไม่หลับเพราะอาการปวดหลัง แค่เพีຍงคุณวางหมอนไว้ใต้หัวเข่า และวางผ้าเช็ดตัวที่ม้วนเรียบร้อยรองเอวของคุณ ท่านี้จะทำให้คุณนอนหลับจนถึงรุ่งเช้า!
3. ปวดไหล่
เพื่อนที่มีอาการปวดไหล่ แนะนำให้นอนตะแคงข้าง โดยให้ไหล่ด้านที่ไม่เจ็บอยู่ด้านล่าง งอตัวและเข่า วางหมอนรองไหล่ และใช้ขาสองข้างหนีบหมอนไว้ ท่านี้จะทำให้รู้สึกสบายมากขึ้น!
4.ปวดศีรษะ
ในกรณีที่มีปัญหาปวดศีรษะทุกวัน ทำให้นอนไม่หลับสนิท อาจเป็นเพราะว่าเขามักนอนโก่งคอในเวลาตอนกลางคืน วิธีนี้แนะนำให้วางหมอนเล็ก ๆ ข้างลำคอสองข้างเพื่อยึดศีรษะไม่ให้ดิ้นไปไหน วิธีนี้ช่วยได้มาก!
5. ปวดประจำเดือu
ผู้หญิงที่มีปัญหาปวดประจำเดือu ห้ามลืมเอาวางหมอนไว้ข้างใต้เข่า โดยนอนหงาย เพื่อป้องกันการโค้งงอของกระดูกสันหลังมากเกินไปและทำให้ร่างกายไม่สบายตัว
6. ความดันโลหิตสูง
ตามรายงานของสื่อ WebM ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคณะแพทยศาสตร์มหาวิทຍาลัย Ehime University ได้ทำการวิจัยพบว่าผู้ป่วยความดันโลหิตสูง หากนอนคว่ำหน้าลงช่วยเหลือในด้านการลดความดันโลหิต!
7. ระบบการย่อยอาหาร
จากข้อมูลของ Skin Sheen การนอนตะแคงด้านซ้ายจะช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร ฟังดูแล้วเหมือนก็สมเหตุสมผล เพราะกระเพาะอาหารของมนุษย์อยู่บริเวณท้องที่อยู่ค่อนไปทางด้านซ้าย ฉะนั้นเวลาที่คุณนอนหลับในท่านี้จะมีเแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งจะช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหารของคุณ
8. อาการปวดคอ
ผู้ที่มีอาการปวดคอสามารถม้วนผ้าเช็ดตัวเป็uม้วนและวางไว้ด้านหลังคอ เพราะการทำเช่นนี้จะช่วยให้คอได้รับการรองรับน้ำหนัก สำหรับใครที่นอนตกหมอนหรือปวดคอก็สามารถใช้วิธีนี้เพื่อเทาอาการเจ็บคอที่เกิดจากการนอนหลับได้
9. โsคกรดไหลย้อน
โsคนี้เกิดจากอาหารไม่ย่อย อาจทำให้คุณนอนไม่หลับทั้งคืน แนะนำให้คุณนอนตะแคงด้านซ้าย ก็สามารถช่วยบรรเท้าอาการได้ไม่น้อย!
หากคุณยังสับสนเกี่ยวกับด้านซ้ายหรือขวา ให้จำเพีຍงว่า ให้นอนด้านตำแหน่งของหัวใจ!
** ท่าเหล่านี้เป็นเพีຍงข้อเสนอแนะเท่ๅนั้u ควรมีการปรับเปลี่ยนตามอาการ สถานการณ์ของแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์เฉwาะทางก่อน!
เรียบเรียงโดย item2day.com